วันศุกร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2556

บทที่8 การเขียนผังงาน

สรุปบทที่8 การเขียนผังงาน
ผังงาน (flowchart)    เป็นเครื่องมือแสดงขั้นตอนหรือกระบวนการทำงาน  โดยใช้สัญลักษณ์ที่ป็นมาตรฐานเดียวกัน
รูปแบบผังงานมี 3 แบบคือ แบบเรียงลำดับ  แบบมีเงื่อนไข  และแบบทำซ้ำ 
เราสามารถเขียนผังงานโดยใช้โปรแกรมหรือเครื่องมือต่างๆช่วยในการออกแบบ  ซึ่งมีผู้ผลิตโปรแกรมออกมาหลายค่ายทำให้ลดขั้นตอนและเวลาการทำงานลงไปได้มากยื่งขึ้น
แบบฝึกหัดบทที่ 8 การเขียนผังงาน
1.  ผังงาน (flowchart) คืออะไร    
  ตอบ    ผังงาน (flowchart)    เป็นเครื่องมือแสดงลำดับการทำงานด้วยภาพสัญลักษณ์ที่เป็นมาตรฐาน  ทำให้มองเห็นการทำงาน ได้ชัดชัดเจน  และนำไปเขียนโปรแกรมได้ง่ายขึ้น  โดยลักษณะของผังงานมีหลายรูปแบบคือ     แบบเรียงลำดับ  แบบเงื่อนไข    และแบทำซ้ำ  ซึ่งแตกต่างกันไปตามลักษณะการทำงานนั้นๆ
2. อธิบายรูปแบบผังงานแบบเรียงลำดับ (sequence) แบบมีเงื่อนไข (decision) และแบบ (loop)                                     
   ตอบ. 1) การทำงานแบบตามลำดับ(Sequence) คือ การเขียนให้ทำงานจากบนลงล่าง เขียนคำสั่งเป็นบรรทัด และทำทีละบรรทัดจากบรรทัดบนสุดลงไปจนถึงบรรทัดล่างสุด สมมติให้มีการทำงาน
   2) กระบวนการคือ อ่านข้อมูล คำนวณ และพิมพ์ จะเขียนเป็นผังงาน(Flowchart) ในแบบตามลำดับได้
   3) การเลือกกระทำตามเงื่อนไข(Decision) คือ การเขียนโปรแกรมเพื่อนำค่าไปเลือกกระทำ โดยปกติจะมีเหตุการณ์ให้ทำ 2 กระบวน การ คือเงื่อนไขเป็นจริงจะกระทำกระบวนการหนึ่ง และเป็นเท็จจะกระทำอีกกระบวนการหนึ่ง แต่ถ้าซับซ้อนมากขึ้น จะต้องใช้เงื่อนไขหลายชั้น เช่นการตัดเกรดนักศึกษา เป็นต้น ตัวอย่างผังงานนี้ จะแสดงผลการเลือกอย่างง่าย เพื่อกระทำกระบวนการเพียงกระบวนการเดียว
    4) การทำซ้ำ (Loop) คือ การทำกระบวนการหนึ่งหลายครั้ง โดยมีเงื่อนไขในการควบคุม หมายถึงการทำซ้ำเป็นหลักการที่ทำความเข้าใจได้ยากกว่า 2 รูปแบบแรก เพราะการเขียนโปรแกรมแต่ละภาษา จะไม่แสดงภาพอย่างชัดเจนเหมือนการเขียนผังงาน(Flowchart) ผู้เขียนโปรแกรมต้องจินตนาการ ถึงรูปแบบการทำงาน และใช้คำสั่งควบคุมด้วยตนเอง ตัวอย่างผังงานที่นำมาแสดงนี้เป็นการแสดงคำสั่งทำซ้ำ(do while) ซึ่งหมายถึงการทำซ้ำในขณะที่เป็นจริง และเลิกการทำซ้ำเมื่อเงื่อนไขเป็นเท็จ
3. ขั้นตอนการทำงานซ้ำแบบ while…do และ do…until ต่างกันอย่างไร จงอธิบาย                                                                 
   ตอบ.  while...do เป็น โครงสร้างที่มีการทดสอบเงื่อนไขก่อน ถ้าเงื่อนไขเป็นจริงก็จะเข้ามาทำงานในกลุ่มคำสั่งที่ต้องทำซ้ำ ซึ่งเรียกว่าการเข้าลูป หลังจากนั้นก็จะย้อนกลับไปตรวจสอบเงื่อนไขใหม่อีก ถ้าเงื่อนไขยังคงเป็นจริงอยู่ ก็ยังคงต้องทำกลุ่มคำสั่งซ้ำหรือเข้าลูปต่อไปอีก จนกระทั่งเงื่อนไขเป็นเท็จ ก็จะออกจากลูปไปทำคำสั่งถัดไปที่อยู่ถัดจาก DO WHILE หรืออาจเป็นการจบการทำงาน
        ส่วน do…until เป็นโครงสร้างการทำงานแบบทำงานซ้ำเช่นกัน แต่มีการทำงานที่แตกต่างจาก DO WHILE คือจะมีการเข้าทำงานกลุ่มคำสั่งที่อยู่ภายในลูปก่อนอย่างน้อย 1 ครั้ง แล้วจึงจะไปทดสอบเงื่อนไข ถ้าเงื่อนไขเป็นเท็จก็จะมีการเข้าทำกลุ่มคำสั่งที่ต้องทำซ้ำอีก หลังจากนั้นก็จะย้อนกลับไปตรวจสอบเงื่อนไขใหม่อีก ถ้าเงื่อนไขยังคงเป็นเท็จอยู่ ก็ยังต้องทำกลุ่มคำสั่งซ้ำหรือเข้าลูปต่อไปอีก จนกระทั่งเงื่อนไขเป็นจริง จึงจะออกจากลูปไปทำคำสั่งถัดจาก UNTIL หรืออาจเป็นการจบการทำงาน
4.จงบอกประโยชน์ของผังงาน
ตอบ. 1.ผังงานอธิบายด้วยภาพสัญญาลักษณ์   และเส้นชี้ทิศทาง  ทำให้มองเห็นลำดับการทำงานของการทำงานชัดเจน   และปฏิบัติตามได้ง่าย
2.เมื่อมีการทำงานที่ผิดพลาด  จะทำให้มองเห็นข้อผิดพลาดได้ง่าย โดยเฉพาะการเขียนโปรแกรมสามารถตรวจสอบและแก้ไขในขั้นตอนที่แก้ปัญหาได้ โดยไม่ต้องไล่หาความผิดพลาดตั้งแต่ต้น
3.สามารถนำผังงานไปใช้ได้กับการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ได้ทุกภาษา  เนื่องจากผังงานเป็นเครื่องมือที่อธิบายการทำงาน   ซึ่งผู้เขียนโปรแกรมจะสั่งให้คอมพิวเตอร์ปฏิบัติตามขั้นตอนนั้นด้วยภาษาคอมพิวเตอร์ที่แตกต่างกันไป
5.จงเขียนขั้นตอน( Algorithm) และวาดผนังงาน(Flowchart) สำหรับการทำงานต่อไปนี้5.1)การยืมหนังสือในห้อสมุด                                                                                                                        
ตอบ   การยืม หนังสือที่เหลือ=จำนวนหนังสือที่มี -จำนวนที่ยืม             แทนเป็นสมการA=B-N                  
จำนวนที่ยืม+หนังสือที่เหลือ=จำนวนหนังสือที่มี                   แทนเป็นสมการ N+A=B

 5.2)ระบบไฟจราจร


5.3)การขึ้น/ลงลิฟท์            
                                                            
  ตอบ       เมื่อค่าน้อยกว่าให้บวกเมื่อเท่ากันให้หยุดเมื่อค่ามากกว่าให้ลบเมื่อเท่ากันให้หยุด


ที่มา หนังสือ ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น